วงการหนังที่กำลังมาแรง แต่ก็เหมือนคุ้นๆว่าเป็นหนังเก่าบ้านเรา

กระแสหนังกำลังมาแรงมากสำหรับประเทศเพื่อนบ้านของเราที่เขาก็แทบไม่เคยที่จะมีหนังมาก่อน ดูแต่หนังต่างประเทศอย่างเดียวเท่านั้น แล้วเมื่อไม่นานมานี้ก็เริ่มมีการใช้ตัวละครของประเทศตนเองเริ่มมีบทบาทในการเล่นหนัง เล่นละครบ้าง แล้วก็เกิดกระแสอย่างดีเริ่มมีกระแสที่ดูตื่นเต้นไม่น้อยตามมาเรื่อยๆ นั้นก็คือประเทศลาว ตอนนี้ทางประเทศลาวเริ่มมีการตื่นตัวกับการเล่นหนังเล่นละคร มากขึ้นทุกวัน และก็ดูเหมือนว่ากระแสจะกว้างขึ้น ก่อตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเป็นแบบนี้วงการหนังของทางประเทศลาวก็คงจะโตขึ้นได้ในไม่ช้านั้นก็แปลว่าความตื่นเต้นของเขาเกิดขึ้น ก็จะทำให้วงการหนังบ้านเราเข้าไปมีบทบาทกับทางประเทศลาวเพิ่มขึ้นไปด้วย เพราะคนทำหนังบ้านเรายังไม่สามารถที่จะพัฒนาไปทางไหนได้เลย เพราะติดหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเรื่องของนายทุน ตามมาด้วยเรื่องการสนับสนุนเครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ ที่มีอยู่ก็ทำได้แค่ถูไถ่ไป แต่มันก็กลายเป็นเรื่องใหม่สำหรับหนังของทางประเทศลาว ก็เข้าทางเลย เมื่อเราไปต่อไม่ได้แต่ก็อยากจะทำหนังอยู่ก็ไปเริ่มทำเรื่องใหม่กับสิ่งเก่าของเราที่เคยทำมา อย่างการทำหนังแนวบ้านๆ ที่ประเทศลาวกำลังคิดจะทำกำลังคิดที่จะริเริ่ม ก็เลยทำให้วงการหนังไทยไม่ไปข้างหน้าแต่แถออกไปหารายได้พอเลี้ยงตัวพอเลี้ยงท้องเลี้ยครอบครัวได้ก่อน ทั้งที่จริงๆ แล้วฝีมือของคนไทยก็ไม่แพ้ชาติใดในโลก ไปคว้ารางวัลต่างๆ มาจากต่างประเทศมาก็หลายอย่างแล้ว แต่ก็ยังไม่เข้าตานายทุนสำหรับคนไทยเสียที อย่างกับหนังไทยที่เคยทำมาเมื่อหลายปีก่อน ยังคงพอจำได้ว่าหนังเรื่องนี้เป็นผู้จัดทำหน้าใหม่ เป็นผู้สร้างรายได้หน้าใหม่ ไม่คิดว่าเรื่องการทำงานจะยากขนาดนี้ ก็ได้แต่ตั้งใจทำหนังอย่างเต็มที่ แล้วพอตัดต่อ ทำทุกอย่างจนสำเร็จ ก็ต้องเป็นอันสลบเพราะ หนังที่ตนเองทำออกมานั้น ไม่มีโรงหนังให้เข้าฉาย เพราะอะไรนะหรือก็ต้องกลับไปถามกันอีกครั้งว่า ค่ายใหญ่ถ้าหนังไม่ทำเงิน แต่เป็นหนังดีใครเขาจะกล้าซื้อ กล้าที่จะลงทุน
แน่นนอนว่าถ้าหนังไม่ทำเงินก็จบกันไป ไม่มีโอกาสที่จะสร้างรายได้ให้กับทุกคนได้อีกต่อไป หนังแสดงต่างๆ ก็ต้องหันมารับรีวิวสินค้าแทน ผลตอบแทนก็ไม่ธรรมดาแล้วตอนนี้ยิ่งมีหุ้นส่วนไปกับเขาด้วยก็ยิ่งดีไปตามๆ กัน วงการหนังก็เหมือนการซื้อหวยแล้ว ไม่รู้ว่าผลลัพธ์ออกมาจะเป็นแบบไหน ถ้าทำออกมาดีก็จบไป แต่ถ้าทำออกมาแล้วไม่สำเร็จนั้นก็คือ หนี้สินในการลงทุนทำหนังนั้นมหาศาลตามมาด้วย ขนาดว่าหนังไทยบ้านเราลงทุนแค่ หลัก 10 ล้านก็ยังไม่สามารถที่จะทำเงินได้ เงินทุนก็จัดว่าไม่น้อย แต่ถ้าเทียบกับต่างประเทศแล้ว มันก็เพียงพอแค่จ้างนักแสดงตัวประกอบได้เพียงแค่ 1 คนเท่านั้น จะให้หนังดีหนังดังแบบต่างประเทศก็คงจะยากอยู่ งั้นก็ต้องทำหนังแบบที่พออยู่พอกินกันต่อไป ลับฝีมือรอโอกาสจะมาถึงก็แล้วกัน อย่าเพิ่งลับคมจนใบมีดหมดด้ามไปก่อนละ รอมาเป็นสิบปี รออีกสิบปีจะเป็นอะไรไป