มากกว่าการปลดปล่อยทุกข์คือ น้ำใจ

นิ่มนวลเปิดหน้าเฟซบุ๊กของตัวเอง เพื่อดูข่าวสารและความเป็นไปของเพื่อนๆ ญาติๆ และคนรู้จัก ทุกครั้งที่เธอเปิดดู เธอก็จะเห็นหน้าฟีดของเจ้าประจำ ซึ่งก็คืออดีตคุณครูของเธอนั่นเอง เธอเห็นคุณครูโพสต์เรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะ ข่าวสารบ้านเมือง ความเป็นไปในชีวิต ความสัมพันธ์ของลูกหลานและลูกศิษย์ นิ่มนวลดีใจที่เห็นคุณครูมีความสุขเสมอแต่วันนี้ นิ่มนวลกลับได้เห็นโพสต์ที่ระบายความรู้สึกของคุณครูจนถึงกับไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ ทำให้นิ่มนวลประหลาดใจมาก เหตุใดคุณครูถึงคิดเช่นนี้ ทั้งที่ก่อนหน้าแทบไม่มีวี่แววความคิดนี้เลย นิ่มนวลตัดสินใจติดต่อคุณครูผ่านทางกล่องข้อความ เธอไต่ถามสาระทุกข์สุขดิบของคุณครูเมื่อเริ่มสนทนา กระทั่งเธอสอบถามถึงโพสต์ระบายความรู้สึกอันนั้น ซึ่งคุณครูชี้แจงต่อนิ่มนวลว่าที่รู้สึกแบบนั้น เนื่องจากสภาวะความเครียดของสถานการณ์ปัจจุบันและมันเป็นผลมาจากการต้องอยู่เพียงลำพัง ออกไปไหนมาไหนไม่ได้ พบปะเพื่อนฝูงไม่ได้อย่างแต่ก่อน ทำให้คุณครูเกิดอาการคล้ายกับโรคซึมเศร้าระยะเริ่มต้น เมื่อนิ่มนวลรับรู้ เธอจึงคิดหาทางช่วยเหลือคุณครูทันที ในทันใด เธอก็คิดได้ว่าจะต้องหาที่ปลดปล่อยความเหงาความโดดเดี่ยวให้คุณครู เธอแนะนำให้คุณครูดูหนังใหม่ผ่านทางระบบออนไลน์ เพราะเป็นช่องทางเดียวที่สะดวกที่สุดในเวลานี้
นอกจากนิ่มนวลจะแนะนำพร้อมกับบอกกล่าวรายละเอียดต่างๆ แล้ว นิ่มนวลยังรับปากคุณครูว่า เธอจะโทร.มาคุยกับคุณครูทุกวัน เพื่อให้คุณครูได้ปลดปล่อยอารมณ์และความรู้สึกทุกอย่าง ซึ่งตอนแรกคุณครูเกรงใจนิ่มนวลจึงปฏิเสธ แต่พอนิ่มนวลบอกเหตุผลต่างๆ รวมถึงความจริงใจที่ต้องการจะช่วยเหลือ คุณครูเลยยินยอม ก่อนที่นิ่มนวลจะยุติการสนทนาผ่านทางกล่องข้อความ เธอบอกและย้ำคุณครูให้ทำตามที่แนะนำทันที เพื่อคุณครูจะได้รับรู้ว่า สิ่งที่เธอแนะนำนั้น ช่วยปลดปล่อยต่างๆ ได้ ซึ่งคุณครูตกลงทำตาม ทำให้นิ่มนวลสบายใจได้เปราะหนึ่ง
ก่อนเที่ยงของวันรุ่งขึ้น นิ่มนวลโทร.หาคุณครูของเธอ ขณะพูดคุยกัน เธอได้ยินเสียงสนทนา ซึ่งเธอเข้าใจว่าเป็นเสียงมาจากการดูหนัง นิ่มนวลสอบถามคุณครูถึงหนังที่ดู คุณครูก็เล่าให้ฟังเป็นฉากๆ คล้ายกับการเล่าเรื่อง ทำให้นิ่มนวลใจชื้นขึ้น เพราะเหมือนคุณครูได้ทำการปลดปล่อยบ้างแล้ว ซึ่งคุณครูก็คงจะพอเข้าใจความรู้สึกของตัวเองตั้งแต่ก่อนที่นิ่มนวลจะติดต่อมาหาเสียอีก แม้นิ่มนวลจะเบาใจ แต่เธอก็ยังจะโทร.หาคุณครูเรื่อยๆ จนกว่าเธอจะแน่ใจว่า คุณครูเป็นปกติดีแล้ว
และแล้วก็ครบหนึ่งสัปดาห์พอดิบพอดีที่นิ่มนวลได้ติดต่อหาคุณครู นิ่มนวลจึงลองใจด้วยการไม่โทร.ไปหา เธออยากจะรู้ว่า คุณครูจะมีอาการอะไรหรือเปล่า หากคุณครูเป็นปกติดี คุณครูจะสามารถบังคับตัวเองไม่ให้โทร.หาเธออย่างแน่นอน ซึ่งนิ่มนวลก็อดทนรอผลของการทดลองนี้ ในที่สุด คุณครูของนิ่มนวลก็เข้าสู่ภาวะปกติ เพราะคุณครูไม่ติดต่อหานิ่มนวลเลย ซึ่งคุณครูได้บอกกับนิ่มนวลในวันที่นิ่มนวลโทร.ไปหาว่า คุณครูดูหนังเพลินจนลืมเรื่องที่นิ่มนวลจะติดต่อไปหา ได้ยินแบบนั้น นิ่มนวลก็ดีใจมากที่สามารถช่วยคุณครูปลดปล่อยความทุกข์ได้ แล้วคุณครูก็ขอบใจนิ่มนวลสำหรับน้ำใจในการช่วยเหลือครั้งนี้